1. บ้านโมเดิร์นกับการวางทิศทางที่ช่วยประหยัดพลังงานเป็นเท่าตัว
ก่อนจะสร้างบ้านหลังหนึ่งจำเป็นต้องมีการออกแบบ เรื่องทิศทางการวางบ้านจึงเป็นสิ่งสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับทิศทางลมและแสงจากธรรมชาติ
ที่จะเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้พลังงานไฟฟ้าภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟหรือเครื่องปรับอากาศก็ตาม ด้วยข้อดีของแบบบ้านโมเดิร์น
ที่เน้นความสวยงามด้วยดีไซน์ที่เน้นช่องลมหลายจุด รวมไปถึงวัสดุที่เป็นบานกระจกใหญ่ที่สามารถรับแสงธรรมชาติและกันความร้อนได้ดี ซึ่งโดย
รวมวัสดุเหล่านี้จะช่วยทำให้บ้านประหยัดพลังงานและบ่งบอกความเป็นบ้านโมเดิร์นได้ไปในตัว
2. บ้านโมเดิร์นกับการเลือกวัสดุสร้างบ้านเพื่อถ่ายเทความร้อน
วัสดุที่ใช้ในการสร้างบ้านโมเดิร์นนั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การเลือกวัสดุในการสร้างบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะการถ่ายเทความร้อนซึ่ง
จะเป็นประเด็นหลักในหัวข้อนี้ เนื่องจากการสร้างบ้านส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบใดก็ตามมักจะใช้ผนังก่ออิฐหรือคอนกรีตเสริมเหล็กที่เป็นวัสดุ
ที่มีมวลสารมากใช้เวลาถ่ายเทความร้อนนานทั้งการรับเข้าและการคลายออก ดังนั้น ห้องที่ใช้งานช่วงกลางคืน อาทิ ห้องนอน จึงควรเลือกใช้อิฐ
มวลเบาหรือผนังเบาในการประกอบห้องเป็นหลัก เพื่อที่เวลากลางคืนห้องจะได้เย็นสบายจากการถ่ายเทความร้อนได้เร็ว การจะทำให้หลังคาบ้าน
โมเดิร์นแบบนี้นั้นสามารถช่วยประหยัดพลังงานจากความร้อนได้ก็คือ การติดตั้งฉนวนความร้อน ตัวกันความร้อน หรือหลังคาเมทัลชิค ซึ่งอาจ
จะต้องเพิ่มงบประมาณการสร้างมากกว่าหลังคาแบบจั่ว แต่ในระยะยาวจะสามารถช่วยประหยัดไฟได้
3. บ้านโมเดิร์นกับฉนวนความร้อนจากพื้นที่สีเขียว และบ่อน้ำ
ถึงแม้การออกแบบภายนอกและภายในจะดูทันสมัยแล้ว บริเวณภายนอกของตัวบ้านก็สำคัญไม่แพ้กัน นอกจากจะช่วยอัปเกรดให้บ้านสวยงามทัน
สมัยมีความเป็นโมเดิร์นขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดพลังงานได้แบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ใบหญ้ารอบ ๆ บ้าน ที่ช่วยให้อากาศรอบ
บ้านบริสุทธิ์ และยังได้รับความเย็นจากต้นไม้ด้วย โดยต้นไม้ส่วนใหญ่จะช่วยเก็บความร้อนและระบายออกมาเป็นไอน้ำผ่านทางใบทำให้อากาศ
รอบ ๆ ต้นไม้เย็นลง รวมไปถึงการปลูกหญ้าซึ่งเป็นเหมือนการปูฉนวนกันความร้อนให้กับพื้นดินก็จะช่วยสะท้อนแสง สร้างความร่มรื่นและยัง
สามารถป้องกันฝุ่นในหน้าร้อนได้ ยิ่งปลูกต้นไม้เยอะเท่าไหร่ก็ช่วยให้อาณาเขตบ้านเย็นขึ้นเท่านั้น